Home » » วิธีการ บรรเทาความเก็บกดทางเพศ

วิธีการ บรรเทาความเก็บกดทางเพศ

loading...
อาการเก็บกดทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยมีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ไม่มีแฟนหรือคู่นอนที่คอยร่วมรักกับคุณ และต่อให้มี เขาหรือเธอก็อาจจะไม่ตอบสนองความต้องการดังกล่าวเท่าที่คุณคาดหวัง รวมถึงอาจมีสาเหตุความบกพร่องทางสุขภาพกายและจิต ซึ่งส่งผลให้คุณต้องเก็บกดอารมณ์ดังกล่าวไว้ อย่างไรก็ตาม คุณควรจะหาทางออกอย่างเหมาะสมให้กับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้คุณ (และอาจรวมถึงแฟนคุณ) มีความสุขในชีวิตมากขึ้น


1 สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง. การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมักเป็นหัวข้อสนทนาต้องห้าม และมักทำให้ผู้ที่พูดถึงเรื่องนี้รู้สึกผิด อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง คือ มันช่วยให้คุณรู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน เพื่อจะได้สื่อสารให้คู่นอนของคุณได้เข้าใจด้วย
ตระหนักว่าการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติและส่งผลดี ผลการศึกษาจากสถาบัน Kinsey ยังพบว่าผู้ชาย 90% และผู้หญิง 64% มีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แต่ข้อมูลด้านความถี่ในการทำเรื่องดังกล่าวมักต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะมีบางคนที่อายและไม่กล้าตอบตามตรง
มีเรื่องคลุมเครือมากมายเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้หญิง หนึ่งในเรื่องดังกล่าวคือ ที่มักพูดกันว่ามี “สูตรสำเร็จ” สำหรับการถึงจุดสุดยอด ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะผู้หญิงแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนสำเร็จถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการกระตุ้นคลิตอริส ในขณะที่บางคนชอบให้กระตุ้นส่วนอื่นๆ มากกว่า ดังนั้น หากคุณมีวิธีที่ไม่เหมือนใครในเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องรู้สึกแย่
บางคนชอบที่จะใช้อุปกรณ์จำพวกของเล่นทางเพศ (Sex Toys) ร่วมด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ขอเพียงแค่อ่านวิธีใช้ และรักษาความสะอาดให้ดี
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง จะช่วยปลดปล่อยเอ็นโดฟีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนในร่างกายที่ทำให้เรารู้สึกดี และยังช่วยบรรเทาความเครียด รวมถึงความกังวลใจ อันเป็นบ่อเกิดของความเก็บกดทางเพศนั่นเอง[9]เวลาที่ถึงจุดสุดยอด ร่างกายยังหลั่งสารโดปามีนและอ๊อกซิโทซิน ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบายด้วย[10]
คุณสามารถทดสอบร่างกายตัวเองได้ โดยหาสถานที่ๆ ผ่อนคลาย และทดลองด้วยเทคนิคหลากหลาย เพื่อให้รู้ว่าตัวเองชอบถูกสัมผัสแบบไหน รวมถึงการเล้าโลม และความรุนแรงในการสอดใส่ด้วย
หากการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ทำให้คุณรู้สึกผิด ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น ความเคร่งในศาสนา หรือมันขัดต่อคุณธรรมประจำใจ แต่เมื่อคุณตรึกตรองดูแล้วว่า คุณจำเป็นต้องทำ คุณก็ควรปรึกษานักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรักษาอาการรู้สึกผิดดังกล่าว


2 พยายามอย่าไปสนใจคำวิจารณ์ของใคร. บ่อยครั้งที่ผู้หญิงมักเกิดความเก็บกดทางเพศ เพียงเพราะรู้สึกว่าไม่ควรปลดปล่อยมันเกินพอดี แต่ข้อเท็จจริงก็คือว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่า ต้องบ่อยมากหรือน้อยแค่ไหน และต้องทำอย่างไรถึงจะเรียกว่าพอดี อย่างที่บอกไปแล้วว่า มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน ดังนั้น คุณควรหาทางปลดปล่อยให้ตัวเองและคู่รัก (หากมี) เท่าที่ตัวเองพอใจ[11]
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องนี้ ก็คือการที่มีผู้หญิงหลายคน มักคิดว่าตนเองไม่เคยถึงจุดสุดยอด เพราะดันไปเปรียบเทียบกับสีหน้าท่าทางเวลาถึงจุดสุดยอดของเหล่าตัวละครหญิงที่แสดงในหนังโป๊ หรือภาพยนตร์ติดเรท[12] จำเอาไว้ว่า เรื่องแบบนี้ คุณต้องเป็นในแบบของตัวเอง ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร
หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับใครทั้งสิ้น บางคนมักชอบคิดว่าตนเองเซ็กส์จัดเกินไป และบางคู่รักก็มักชอบคิดว่า คู่ของตัวเองผิดปกติ เพราะมีเพศสัมพันธ์กันน้อยกว่าคู่อื่นๆ ทั้งที่พวกเขาเองก็มีความสุขดีอยู่แล้ว แต่พอเปรียบเทียบขึ้นมาเท่านั้นล่ะ กลับรู้สึกแย่ทันที
ถึงแม้ว่า คุณควรจะเข้าใจในความต้องการทางเพศของตนเอง (และคู่นอน) ก็ควรเข้าใจด้วยว่า เรื่องแบบนี้ต้องยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย การบังคับขืนใจในรูปแบบใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องต้องห้าม หากทนไม่ไหวจริงๆ ก็ควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาทางระบายออกอย่างถูกวิธี
แม้แต่รสนิยมทางเพศที่ดู “พิสดาร” อย่างเช่น การใช้โซ่ตรวนพันธนาการ และเล่นบทลงโทษกันรุนแรงระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า BDSM (Bondage/ Dominance and Submission/ Sadomasochism) ยังทำด้วยความสมยอมและให้เกียรติกันเลย ซึ่งหากคุณสนใจการมีเพศสัมพันธ์รูปแบบดังกล่าว ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน จะได้เข้าใจธรรมเนียมดังกล่าวอย่างถูกต้อง


3 ยอมรับในความเป็นตัวเอง. สาเหตุหนึ่งของความเก็บกดทางเพศ คือ การที่คุณไม่พอใจในสรีระของตนเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมขาดความสุขในเรื่องเพศอย่างที่ควรจะเป็น[14] ความรู้สึกว่าตนเองไม่น่ารัก หรือไม่คู่ควรกับความใส่ใจของใคร ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ซึ่งหากคุณเริ่มรู้จักยอมรับตนเอง ภาวะดังกล่าวก็จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดี
อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา จากการสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้หญิงมากกว่า 90% ไม่พอใจกับรูปร่างของตนเอง ผู้หญิงเป็นเพศที่มักกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง และมักเอามาตรฐานของสังคม ซึ่งให้ความสำคัญกับเรือนร่างในอุดมคติ มากำหนดภาพลักษณ์ของตนเอง ดังนั้น คุณควรเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหน
การใช้เวลาร่วมกับคนที่รักคุณ ในแบบที่คุณเป็น และให้ความสำคัญกับคุณอย่างแท้จริง จะช่วยให้ความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น
รับผิดชอบชีวิตทางเพศของตัวเอง การรู้สึกผิดในเรื่องรสนิยม รวมถึงความปรารถนาทางเพศของตัวเอง จะนำมาซึ่งอาการเครียดและเก็บกด ดังนั้น พยายามหาความสุขตามอัธยาศัย จะรักใครชอบใครมันก็เรื่องของคุณ ไม่มีใครละเมิดสิทธิของคุณได้
ลองออกเดทกับตัวเอง เพื่อดูว่าคุณรู้สึกอย่างไร เพราะการจะรู้สึกยอมรับตัวเองได้นั้น จำเป็นต้องเห็นตัวเองเป็นคนที่น่าคบหา และคุ้มค่าในการใช้เวลาอยู่ร่วมด้วย คุณอาจพาตัวเองไปดินเนอร์ หรือเดินเล่นตามห้าง รวมถึงไปกินลมชมวิวริมทะเล และดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ว่าตัวเองก็เป็นคนสำคัญ และมีความน่าปรารถนาในตัวไม่น้อยไปกว่าใคร


4 ไม่จำเป็นต้องสุดยอดก็ได้. บางครั้ง หลายๆ คนก็มัวแต่กังวลเรื่องการถึงจุดสุดยอด ทำให้มองว่าตัวเอง “ล้มเหลว” หากไปไม่ถึงสวรรค์ ไม่ว่าจะช่วยตัวเอง หรือมีคู่หลับนอนก็ตาม หากมัวแต่กังวลในเรื่องจุดสุดยอดมากไป มันจะเปลี่ยนประสบการณ์อันน่าเร้าใจ ให้กลายเป็นฝันร้ายทันที ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ “เสร็จ” ยาก ก็ขอให้โฟกัสไปที่ความรื่นรมย์โดยรวมของประสบการณ์ดังกล่าวแทน[18]
การไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ ทางการแพทย์เรียกว่า อาการ “ไม่อาจถึงฝั่งฝัน” (Anorgasmia) ซึ่งมีผู้หญิงหลายๆ คนเป็นกันทั่วโลก บ่อยครั้งที่อาการดังกล่าว เกิดจากภาวะทางร่างกาย และบางครั้งก็เป็นเรื่องของจิตใจ อย่างไรก็ตาม คุณควรปรึกษาแพทย์ในทุกกรณี หากมีอาการดังกล่าวเป็นประจำ


5 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ. บางครั้งอาการผิดปกติหรือเก็บกดทางเพศ ก็มีหลายสาเหตุที่คุณนึกไม่ถึง ทั้งเกิดจากโรคซึมเศร้า อาการวิตกกังวล ความเครียด และประสบการณ์ถูกทารุณทางเพศในวัยเด็ก เป็นต้น ซึ่งมีเพียงนักบำบัดเท่านั้น ที่จะทำการรักษาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
ผู้เชี่ยวชาญทางเพศอาจจะให้บริการปรึกษาแก่คู่รัก หรือคนโสดทั่วไปก็ได้ ซึ่งผู้ที่ให้การบำบัดด้านนี้แก่คุณได้ อาจมีทั้งจิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ นักกายภาพบำบัด นักบำบัดชีวิตคู่ รวมถึงนักบำบัดเรื่องเพศโดยตรง หากคุณต้องการคำปรึกษาในเรื่องดังกล่าว ก็อาจจะติดต่อหน่วยงานของรัฐอย่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) หากคุณเป็นผู้หญิง และวางใจที่จะปรึกษาหน่วยงานเฉพาะสำหรับสุภาพสตรี ก็สามารถสอบถามจากมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง ได้เช่นกัน
คุณอาจจะแปลกใจ หากพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่า ชีวิตในด้านอื่นๆ ของคุณนั่นเอง ที่เป็นสาเหตุของปัญหาทางเพศ
จำไว้ว่า นักบำบัดหรือให้การปรึกษาเรื่องเพศ ไม่ได้มีหน้าที่ตอบสนองทางเพศแก่ผู้ไปขอคำปรึกษา ที่จริงแล้ว ทั้งในแง่กฎหมายและจรรยาบรรณ พวกเขาไม่ควรที่จะอาศัยโอกาสในการล่วงละเมิดทางเพศ หรือมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ใช้บริการคนใดทั้งสิ้น หากเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น คุณควรแจ้งความดำเนินคดี รวมถึงแจ้งให้ทางหน่วยงานต้นสังกัดทราบ
การเอาเรื่องเพศไปปรึกษาคนภายนอก อาจดูน่าอึดอัด แต่หากคุณ (และคู่รัก) ยอมเปิดใจแก่นักบำบัดแล้ว พวกเขาก็จะรับฟังโดยไม่ตัดสินอะไร หากเขาหรือเธอไม่สนใจฟัง หรือชอบวิพากษ์วิจารณ์คุณ ก็ขอให้แจ้งหน่วยงานต้นสังกัด หรือไปใช้บริการเปลี่ยนนักบำบัดที่ดีกว่า
การบำบัดกระบวนการคิดและพฤติกรรม (CBT) เป็นเทคนิคที่นิยมในการนำมาบำบัดเรื่องเพศ โดยสามารถชี้ให้คุณเห็นทัศนคติบางอย่าง ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการทางเพศ และปรับเปลี่ยนมันเสียใหม่ เพื่อให้คลายกังวลเรื่องดังกล่าวได้


Credit: http://th.wikihow.com/
loading...