Home » » เก็บเงิน 4 ปี ได้ 6 หมื่น หวังจะไปแต่งงานลูกสาว แต่เมื่อกลับบ้านเกิดแทบใจสลาย ไม่น่าทำกันลง

เก็บเงิน 4 ปี ได้ 6 หมื่น หวังจะไปแต่งงานลูกสาว แต่เมื่อกลับบ้านเกิดแทบใจสลาย ไม่น่าทำกันลง

loading...
เก็บเงิน 4 ปี ได้ 6 หมื่น หวังจะไปแต่งงานลูกสาว แต่เมื่อกลับบ้านเกิดแทบใจสลาย ไม่น่าทำกันลง



สาวกัมพูชาวัย 20 ปี พร้อมมารดาเข้าร้องสื่อ หลังคดีไม่คืบ เผย ทำงาน 4 ปี เก็บออมเงินได้ 6 หมื่น เพื่อกลับไปแต่งงาน โดยเรียกแท็กซี่จากนนทบุรี ไปส่งจันทบุรี ตกลงค่าโดยสารที่ 5 พันบาท แต่ระหว่างทางอ้างขอเติมแก๊สให้ผู้โดยสารลงจากรถ ก่อนขับหนีเชิดเงินสดพร้อมชุดแต่งงานไปเกลี้ยง

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ น.ส.ปิยธิดา ยั่งยืน อายุ 39 ปี พลเมืองดีได้พา นางเซียบ สวน อายุ 48 ปี กับน.ส.เดน ทาคอม มาเดียล อายุ 20 ปี บุตรสาว ทั้งคู่เป็นชาวกัมพูชาอยู่ในอาการโศกเศร้า เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อให้เป็นสื่อกลางในการติดตามคดีที่ไม่คืบหน้า


น.ส.ปิยธิดา ให้การแทนว่า สองแม่ลูกคู่นี้ทำงานอยู่ในโรงงานย้อมสีผ้า ย่านประชานิเวศน์เขตเมืองนนทบุรีมากว่า 4 ปี จนเก็บหอมรอมริบได้เงินกว่า 60,000 บาท ตั้งใจจะนำเงินดังกล่าวกลับไปที่ประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นทุนให้ลูกสาวได้แต่งงาน กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา สองแม่ลูกได้เรียกรถแท็กซี่ สีเหลือง ทะเบียน ทส-7570 กทม. ที่หน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาพงษ์เพชร จ.นนทบุรี ตกลงกันในราคาเหมา 5,000 บาท เพื่อไปส่งยัง จ.จันทบุรี โดยโชเฟอร์นั้นเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี ก่อนรถจะเคลื่อนหน้าได้ขอเก็บเงินล่วงหน้าก่อน 3,000 บาท แต่เมื่อขับมาถึงย่านกิ่งแก้ว ซอย 40 เขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โชเฟอร์ได้แสร้งออกอุบายว่า ขอแวะเข้าไปเติมปั๊มแก๊ส รวมทั้งขอเก็บเพิ่มก่อนอีก 1,000 บาท จากนั้นก้บอกให้สองแม่ลูกลงจากรถไปรอก่อน เพราะจะให้เด็กปั๊มเติมแก๊ส แต่พอเดินลงจากรถไป โชเฟอร์ก็รีบเหยียบคันเร่งซิ่งรถหนีไปทันที โดยมีรถกระเป๋าใยใหญ่สองใบติดไปด้วย ซึ่งภายในมีทั้งเงินสดจำนวนดังกล่าวและชุดแต่งงานของลูกสาว

"จากนั้นพอเรารู้เรื่่อง ก็รีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของปั๊มดังกล่าว และประสานค้นหาจนรู้ว่าโชเฟอร์รายนี้ชื่อ นายจิรเดช (สงวนนามสกุล) พร้อมทั้งสามารถหาเบอร์โทรศัพท์ได้ จากนั้นพอโทรฯไปสอบถามที่เบอร์เขา ก็มีเสียงผู้หญิงรับสายและบอกว่าเป็นภรรยา ส่วนเรื่องกระเป๋านั้นสามีเอาไปฝากไว้ที่ สน.ลาดกระบัง แล้ว แต่พอเราพาสองแม่ลูกไปตามที่ สน.ลาดกระบัง กลับพบว่า ไม่มีใครเอากระเป๋ามาฝากไว้ทั้งนั้น เป็นแค่เรื่องโกหก จึงรีบพาทั้งคู่มาแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จุดเกิดเหตุ แต่ผ่านมาหลายวันคดีไม่คืบหน้า คนร้ายลอยนวล จำเป้นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว คนที่หาเช้ากินค่ำจะรู้ดีว่ามันรุ้สึกอย่างไร"

http://www.siamupdate.com/news-182201
loading...