loading...
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 เม.ย. พล.ต.ต. จตุพล ปานรักษา รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต. อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ นำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าจับกุมนาย กฤติเดช ระเวงวรรณ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาข่มขืนและทำร้ายร่างกาย น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2558 การเข้าจับกุมครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจ 50 นาย เข้าควบคุมตัวนายกฤติเดชขณะเตรียมนำพาลูกบ้านไปเกณฑ์ทหาร ที่หอประชุมอำเภอกมลาไสย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนจำนวนมาก และผู้ต้องหาที่ตกใจจนหน้าซีด
จาก นั้นตำรวจและทหารนำหมายศาลและตัวผู้ต้องหาเข้าค้นบ้านพัก ซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดู เหตุการณ์จำนวนมาก ต่างตะโกนสาปแช่ง ผู้ต้องหาให้ตกนรกหมกไหม้ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เอาผิดสถานหนัก จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ
สำหรับ คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชา ชน หลังเกิดเหตุพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งกำชับให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีมาให้ได้ ขณะที่ครอบครัวของน้องสโนว์เพิ่งทำบุญครบ 100 วัน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้ง นี้ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.2558 น.ส.ฤดีวัลย์ หรือน้องสโนว์ ขับขี่รถจักรยายนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาว ทะเบียน ขนว 443 ร้อยเอ็ด กลับจากการแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะข้างทางพื้นที่สภ.กมลลาไสย คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาแล้วถีบรถจักรยานยนต์ของน้องสโนว์จนล้มลง ทั้งรถทั้งคน จากนั้นทำร้ายร่างกายเพื่อจะล่วงละเมิดทางเพศ แต่น้องสโนว์ต่อสู้ขัดขืนโดยกัดที่มือของคนร้ายพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเหตุให้คนร้ายตกใจกลัวรีบหลบหนีไป น้องสโนว์โทรศัพท์หาบิดา โดยแจ้งว่าถูกทำร้าย ต่อมามีผู้นำส่งร.พ.กมลาไสย ระหว่างทางน้องสโนว์ได้บอกลักษณะ รูปพรรณของคนร้าย ว่าใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ รูปร่างท้วม สวมเสื้อสีขาวแขนสั้น ก่อนที่น้อง สโนว์จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากบาดเจ็บสาหัสจากอาการตับแตกและร่างกายได้รับความกระทบกระเทือน
หลัง เกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. มาควบคุมการสืบสวนสอบสวนคดีด้วยตนเอง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องก่อนสั่งการพล.ต.ท. บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภาค 4 อำนวยการคดี พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผบช.ภาค 4 รับผิดชอบงานสืบสวน พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบช.ภาค 4 รับผิดชอบงานสอบสวน บูรณาการร่วมกับบก.สส.ภาค 4 บก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ สภ.กมลาไสย และฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ สวนสอบสวนพยานบุคคลต้องสงสัย ทั้งกลุ่มพ้นโทษที่มีพฤติ กรรมเกี่ยวกับเพศ กลุ่มวัยรุ่นทั้งในและนอกพื้นที่ บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องสงสัยทุกกลุ่ม พร้อมกับปูพรมตรวจค้นทุกหมู่บ้าน ทุกหลังคา ทั้งหมู่บ้านที่เกิดเหตุ หมู่บ้านข้างเคียง ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวนมาก โดยเน้นการนำนิติวิทยาศาสตร์มาเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งว่า พบบุคคลต้องสงสัยมีรอยกัดที่นิ้วมือตามคำให้การของผู้ตาย คือ นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงเรียกมา สอบสวนปากคำ เบื้องต้นนายกฤติเดชให้การปฏิเสธ อ้างว่ารอยกัดที่นิ้วมือเป็นรอยหนูกัด แต่พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อ
วัน ที่ 29 ธ.ค.2558 พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พฐ.ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน นายกฤติเดช นำดินและฟางที่ติดอยู่กับเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัยมาตรวจพิสูจน์ ต่อมาวันที่ 30 มี.ค.2559 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจากบ้านญาติของนายกฤติเดช ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคันที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจพิสูจน์ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนส่งหลักฐานให้สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์นิติ เวชตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่ารอยกัดที่นิ้วมือของผู้ต้องสงสัยไม่ใช่รอยกัดของหนู แต่เป็นรอยกัดของมนุษย์ ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับดินและฟางที่เก็บได้จากเสื้อยืนยัน เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีพยานบุคคลยืนยันว่าเห็นผู้ต้องสงสัยในวันเกิดเหตุสวมใส่เสื้อขาว ขับรถติดตามผู้ตาย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการสืบสวนทางลึกพบมูลเหตุจูงใจในการกระทำผิดของผู้ต้อง สงสัยที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ตาย
จากพยานหลักฐานดังกล่าวทั้ง พยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานทางนิติ วิทยาศาสตร์ พนักงานสืบสวนสอบสวนจึงเชื่อว่านายกฤติเดช เป็นผู้ทำร้ายและล่วง ละเมิดน้องสโนว์จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายจริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ขออนุมัติหมายจับ กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับที่ 127/2559 ลงวันที่ 4 เม.ย. 2559 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 277 และ 290 มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ต่อมาเวลา 15.30 น.วันเดียวกันที่บก.ภ.จ. กาฬสินธุ์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จ. กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนาย กฤติเดช ระเวงวรรณ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้าน สีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แต่เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงไม่สามารถนำตัวมาแถลงได้
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณ์ และนางลำไย พลประสิทธิ์ บิดามารดาของน้องสโนว์ รวมทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนนักเรียน และประชาชนจำนวนมากเดินทางมารับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ โดยบิดามารดาของน้องสโนว์เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่สามารถจับ ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า หลังเกิดเหตุพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับสั่งการเจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องนานกว่า 100 วัน กระทั่งสามารถขอหมายศาลและจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธแต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะรอยกัดบริเวณนิ้วหัวแม่มือขวาของนายกฤติเดช ซึ่งจากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์ยืนยันว่าเป็นรอยฟันของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีรอยข่วนบริเวณ นิ้วชี้ขวา รอยข่วนบริเวณแก้มซ้าย รอยข่วนบริเวณเอวด้านซ้าย รอยข่วนบริเวณหลัง เศษดิน และหญ้าแห้งที่พบในเสื้อผ้าของผู้ต้องหาอีกด้วย
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมี หลักฐานสำคัญคือรถจักยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน ขคธ กาฬสินธุ์ 185 กาฬสินธุ์ ซึ่งผู้ต้องหานำไปฝากไว้กับญาติหลังเกิดเหตุ โดยพบร่องรอยการเฉี่ยวชนที่เข้ากันกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ ทะเบียน ขนว 443 ร้อยเอ็ด ของน้องสโนว์ ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่ารอยกัดดังกล่าวเป็นรอยกัดของหนูนา และหญ้าคาบาดหน้า แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานจึงได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ด้าน นางลำไย พลประสิทธิ์ มารดาน้อง สโนว์ กล่าวว่า ดีใจและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันจนสามารถติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษจนได้ ไม่คาดว่าคนที่ทำร้ายลูกสาวจนเสียชีวิตจะเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านที่ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ครอบครัวมั่นใจว่าพยานหลักฐานของตำรวจจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ อย่างแน่นอน
http://www.siamupdate.com/news-182088
loading...